เกี่ยวกับ จเร ฟาร์ม

Creative Enterprise : Innovative Machines
( จเร ฟาร์ม )

“จเร ฟาร์ม” พัฒนากระบวนการผลิตน้ำผึ้งอินทรีย์

กระบวนการผลิตน้ำผึ้งอินทรีย์

ได้เทคนิคการคัดสายพันธุ์และเลี้ยงผึ้งเพื่อผลิตน้ำผึ้งอินทรีย์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานสากล
การ เกษตรแบบอินทรีย์ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เกษตรกร เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ หรือสารเคมีตกค้างในสิ่งแวดล้อมและผลผลิต ในขณะที่ในปัจจุบันผู้บริโภคได้ตระหนักถึงสุขภาพมากขึ้น มุ่งเน้นในเรื่องความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่บริโภค ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์นั้นได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก
เช่นเดียวกับการเลี้ยงผึ้งเพื่อผลิตน้ำผึ้งอินทรีย์ที่มีคุณภาพ ปลอดจากสารเคมีและสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ทำให้น้ำผึ้งที่ได้มีคุณภาพและคุณประโยชน์สูง ดั่งเช่นที่ “จเร ฟาร์ม”
จเรศักดิ์ ศรีวงศ์ เจ้าของ จเร ฟาร์ม และผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมผู้เลี้ยงผึ้งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่จะผลิตน้ำผึ้งอินทรีย์ ให้มีคุณภาพสูง ปลอดจากสารเคมีและสิ่งปนเปื้อนต่างๆ นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกขั้นตอนของกระบวนการการผลิตจะต้องถูกต้องตามมาตรฐาน การผลิตน้ำผึ้งอินทรีย์ของโลก ดังนั้น จเร ฟาร์ม จึงได้ขอเข้ารับการสนับสนุนจากโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (iTAP) ใน “โครงการวิจัยและพัฒนาการผลิตน้ำผึ้งอินทรีย์”  โดยทำการวิจัยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในทุกขั้นตอนการผลิตน้ำผึ้งอินทรีย์ ตั้งแต่การคัดสายพันธุ์ผึ้งที่เหมาะสม การเลี้ยงผึ้ง สถานที่ตั้งรังผึ้ง การเก็บเกี่ยวผลผลิต ตลอดจนถึงการบรรจุสินค้า ซึ่งจะต้องดำเนินการตามมาตรฐานการผลิตน้ำผึ้งอินทรีย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้น้ำผึ้งอินทรีย์ที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ
ผลจากการดำเนินโครงการร่วมกันครั้งนี้ส่งผลให้ จเร ฟาร์ม ได้เทคนิคการคัดสายพันธุ์และเลี้ยงผึ้งเพื่อผลิตน้ำผึ้งอินทรีย์ ที่มีคุณภาพและมาตรฐานสากล อีกทั้งสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้จากเดิมถึง 50 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนการเลี้ยงผึ้งจากการใช้สารเคมีและยาปฎิชีวนะในรัง ผึ้งเพื่อควบคุมตัวไรและโรคผึ้ง ทำให้สามารถเพิ่มรายได้ให้กับเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งอินทรีย์ ของ จเร ฟาร์มอีกด้วย
ปัจจุบัน จเร ฟาร์ม เป็นผู้ผลิตน้ำผึ้งคุณภาพ ในฟาร์มระดับกลางขนาด 101-500 รัง โดยลงทะเบียนเสนอแผนการดำเนินงานและเลี้ยงผึ้งภายใต้การควบคุมดูแลของคณะ กรรมการเกษตรอินทรีย์ ศูนย์ผึ้ง ปศุสัตว์ ประจำฟาร์มตามหลักการจัดการทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มผึ้ง หรือมาตรฐานฟาร์ม (GAP)
“ก่อนที่เราจะเก็บน้ำผึ้งได้ นั้น ต้องออกสำรวจหาแหล่งดอกไม้หรือพืชสมุนไพรที่ไม่มีการใส่ปุ๋ย ยา หรือสารเคมีใดๆ ทั้งสิ้น เช่น ดอกสาบเสือ เปล้า ลิ้นจี่ป่า ฯลฯ นอกจากนี้ที่ตั้งของผึ้งต้องอยู่ห่างจากชุมชน แหล่งปฏิกูล ที่ทิ้งขยะมูลฝอย โรงงานอุตสาหกรรม สารเคมี สารพิษ และห่างจากถนนที่มีการจราจรคับคั่ง เพื่อหลีกเลี่ยงสารตะกั่วหรือโลหะหนักปนเปื้อน ฯลฯ ไม่น้อยกว่า 3 กม. ส่วนการจัดการรังผึ้งนั้นต้องแยกชั้นของน้ำผึ้งและตัวอ่อนของผึ้งไม่ให้ปะปนกัน โดยคัดเก็บเกี่ยวเฉพาะน้ำผึ้งที่มีคุณภาพ ตามมาตรฐานของเกษตรอินทรีย์ ซึ่งการเก็บและสลัดน้ำผึ้งนั้น จะใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่สะอาด ปลอดภัยต่อผู้บริโภคเสมือนอยู่ในโรงงาน มีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมดูแลทุกขั้นตอน มีการใช้มุ้งตาข่ายสนามเพื่อป้องกันการรบกวนจากผึ้งป่าหรือผึ้งใกล้เคียง ต้องไม่ใช้ไฟเผาหรือยาฆ่าแมลงฉีดพ่นเพื่อทำร้ายผึ้งเหมือนกับการตีผึ้งป่า ทั่วไป ซึ่งคอนผึ้งที่สลัดเอาน้ำผึ้งออกแล้วสามารถนำกลับมาใช้เลี้ยงผึ้งใหม่ได้อีก”
ทั้งนี้ ทุกขั้นตอนของการเก็บตัวอย่างน้ำผึ้งจะ มีเจ้าหน้าที่ดูแล แล้วนำเข้าตรวจในห้องปฏิบัติการเพื่อดูเปอร์เซ็นต์น้ำตาล คุณค่าอาหารที่เป็นประโยชน์ เป็นการช่วยป้องกันการปนเปื้อนจากสารอันตรายก่อนได้รับการรับรอง
การเลี้ยงผึ้งด้วยวิธีการนี้เป็นการช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ป่าคงอยู่ในสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลงภายในกำหนดระยะเวลาจากดอกไม้บานจนโรย เหี่ยวเฉาประมาณ 30-45 วัน จากนั้นจะทำการพักน้ำผึ้งบ่ม ไว้สักระยะ 10-15 วัน โดยไม่ต้องอบหรือไล่ความชื้น ด้วยความร้อนหรือวิธีการใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อให้ฟองอากาศที่เกิดจากการเหวี่ยงสลัดออกจากน้ำผึ้งแล้ว จึงกรอกบรรจุขวด เก็บตัวอย่าง ตรวจสอบตามกระบวนการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ก่อนนำออกจำหน่าย  ภายใต้ผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น นับได้ว่าเป็นสินค้าจากฟาร์มถึงผู้ผลิตโดยตรง
น้ำผึ้งอินทรีย์ จะอุดมไปด้วยแร่ธาตุ สารอาหาร และวิตามินครบถ้วน 100% ไม่มีพิษต่อผู้บริโภค เป็นยาอายุวัฒนะ แม้แต่ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานก็สามารถรับประทานแทนน้ำตาลได้ ภายใต้คำแนะนำดูแลจากแพทย์ น้ำผึ้งอินทรีย์สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 10 ปี แต่หากจะให้ได้คุณค่าและประโยชน์สูงสุดควรรับประทานภายใน ระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี”
จเรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงโครงการในอนาคตว่า จะดำเนินการเพิ่มเติมในเรื่องของการคัดสายพันธุ์ผึ้งเพื่อเพาะขยายพันธุ์ โดยจะคัดเลือกพันธุ์ผึ้งที่เก็บน้ำผึ้งดี ไม่หนีรัง เพื่อให้ได้น้ำผึ้งที่มีคุณภาพสูงรองรับตลาดได้อย่างพอเพียง เนื่องจากในช่วงนี้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น และน้ำผึ้งอินทรีย์ ก็เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพที่มีผู้ให้ความสนใจและรู้จักมาก ขึ้น ส่งผลให้ยอดขายดีขึ้นเป็นลำดับด้วย ปัจจุบันสามารถหาซื้อน้ำผึ้งอินทรีย์จาก จเร ฟาร์ม ได้ที่ร้านเอเดน ร้านดอยคำ ร้านสหกรณ์เทเวศร์ ราคาตั้งแต่ 25-250 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดบรรจุ
จเร ฟาร์ม48/1 หมู่ 4 ต.นานกกก อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์    
โทรศัพท์ 0 5581-7045, 081 953-6354
โทรสาร 0 5581-7044
E-mail: jare_farm@hotmail.com

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น